เนื้อแทรกมันทอด-ย่างบนเตาไฟ ณ อากิฮาบาระ Gyukatsu Ichi Ni San (牛かつ 壱弐参)

ร้านนี้เป็น1ในร้านที่แอดมินจัดว่าเด็ดติดtopของทริปไปญี่ปุ่นครั้งนี้ครับ

หลังจากแอดมินแมพประกาศกร้าวว่าจะไปสิงสถิตแถว ๆ อากิฮาบาระเป็นเวลาหลายวัน แอดมินกินเลยเลือกร้านนี้มาครับ เป็นร้านเนื้อทอดที่ขึ้นชื่อในย่านอากิฮาบาระ อันที่จริงมันก็มีแบบนี้ในหลาย ๆ พื้นที่ แต่แอดมินกินไม่อยากเสียเงินนั่งรถไฟไปมาระหว่างสถานี เอาเงินมาลงที่อาหารน่าจะดีกว่า ตามแถบก็มีของขึ้นชื่อของมันนี่เนอะ

 อยู่ในซอยถัดจากถนนหลักของอากิฮาบาระแค่ไม่กี่บล็อค ร้านเนื้อทอดนี้หลบมุมไปอยู่ในซอกเล็กๆเป็นบันไดลงไปชั้นใต้ดินลับแลที่มีกลิ่นน้ำมันลอยออกมา คุณอาจจะคิดว่า เอ้า อย่างงี้จะหาร้านเจอได้ไงเป็นแค่รูเล็ก ๆ เท่านั้นเอง ไม่ต้องห่วงครับ แค่เดินไปแถวนั้น เจอคนต่อแถวยาว ๆ ก็ร้านนั้นเลย

ร้านอยู่ในช่องเล็ก ๆ มีบันไดลงใต้ดินที่มีป้ายสีขาวนะครับไม่ใช่สีแดง ตอนแรกแอดมินเกือบเข้าผิดร้านแล้วเพราะหาร้านไม่เจอ ต้องถามคนแถวนั้น

ตอนแรกจะต่อแถวหน้าร้านครับ แต่พอเห็นมีคนยืนต่ออยู่อีกฟากทั้ง ๆ ที่ไม่มีอะไรแถวนั้นก็เลยเดินไปถามว่าใช่แถวเข้าร้านเนื้อทอดหรือเปล่า สรุปได้ว่ามี 2 แถวนะครับ แค่ตัดกลางแถวออกไม่ให้ยื่นออกไปบังร้านอื่น ตำแหน่งแถวที่ 2 ก็ตำแหน่งที่ถ่ายนี่เลย

หน้าร้านอันแสนเป็นกันเอง

มีแผ่นสอนวิธีทานให้อ่านตอนก่อนเข้าร้านด้วย

แอดมินกินมีคำแนะนำอย่างนึง หากจะไปทานร้านนี้ให้ไปก่อนร้านเปิดสักครึ่งชม. หรือไม่ก็ตอนเวลาร้านเปิดทันที อย่าไปตอนหลังร้านเปิดครึ่งชม.แบบแอดมิน ไม่งั้นได้ต่อแถวเป็นชั่วโมง

หลังจากยืนหิวจนแทบจะกินพนักงานต้อนรับน่ารักโฮกในภาพ แอดมินกินก็ได้เข้าไปในร้านสักที พอได้นั่งแล้วสั่งชุดเนื้อทอด 1 ชุด เมนูมีไม่มาก หรือจะเรียกว่ามีเมนูเดียวก็ได้ นั่นคือเนื้อทอด นอกจากเพิ่มขนาดเนื้อ กับเครื่องเคียงนิดหน่อยแล้วก็ไม่มีอะไรเขียนในเมนูเลย

ในร้านบรรยากาศค่อนข้างอวอวลไปด้วยกลิ้นเนื้อหอมหวน เสียงทอดน้ำมัน เสียงเนื้อย่างบนเตาของลูกค้า และทางเดินแคบๆที่ต้องเบียดกันหากจะเข้าหรือออกร้าน

 แผ่นหินลนไฟ มีน้ำมันอยู่ข้างบนนิดหน่อย ร้อนพอสมควรเพราะลูกค้าไม่ขาดสาย อย่าไปจับเชียวล่ะ

อาหารมาค่อนข้างเร็วเพราะเชฟเขาทำสดๆให้เห็นหลังเคาน์เตอร์ ซึ่งไม่ได้ถ่ายภาพเชฟทำอาหารมาซะงั้น แต่ถ้านั่งเคาน์เตอร์เชฟก็จะช่วยสอนวิธีทานให้หากยังทานไม่เป็น ได้ใจความว่าเราสามารถเลือกระดับความสุกได้เองเพราะเราปรุงสุกเอง

แอดมินกินไม่รอช้าคีบเนื้อมาทานแบบเปล่า ๆ ไม่จิ้ม ไม่ย่าง ผลที่ได้คือ แอดมินกินโครตอยากตะโกนดังๆแบบในการ์ตูนทำอาหารที่ออกอาการเว่อร์ๆหลังทานสุดยอดอาหารเข้าไป มันเป็นรสชาติที่แอดมินยังคงจำได้ถึงทุกวันนี้ เนื้อนุ่มๆติดมันที่ทอดกรอบแค่เปลือกนอก ทำให้ข้างในยังอยู่ในขั้นบลูแรร์ แป้งกรอบๆข้างนอกทำให้มีรสสัมผัสกรอบในความนุ่ม เนื้อที่แทบจะละลายไปในปาก แต่ยังเคี้ยวได้อยู่เพราะไม่ได้ปรุงสุกมากก็หยุ่นๆบนฟัน

ชุดเนื้อทอดธรรมดา เพิ่มมันภูเขาขูดหนืด ๆ ไว้กินกับข้าว มีซุปมิโสะและสลัดมันฝรั่งเล็กๆพร้อมกับวาซาบิ 

เอ้า คำแรกฟินสุดๆจนแอดมินแทบหยุดเคี้ยวแล้วลิ้มรสชาติ แต่พอมองไปในจานแล้วเจอสรรพเครื่องปรุง แล้วแอดมินก็จินตนาการว่าหากใช้เครื่องปรุงที่ถูกต้องแล้วรสจะออกมายังไง แอดมินก็น้ำลายสอทั้ง ๆ ที่กำลังทานอยู่เลย หลังจากนั้นก็ได้ลองย่างก็พบว่าความอร่อยมีหลากหลายรูปแบบมาก หากย่างนานก็จะเหมือนเนื้อวากิวที่ละลายในปากและรสเข้มข้นของไขมันที่ละลายก็จะปกคลุมประสาทรับรส หากย่างชั่วเดียวก็จะมีสัมผัสความนุ่มแบบพอเคี้ยวได้และความมันในปากเหมือนเนยซึ่งได้รสชาติของเนื้ออีกแบบ หากย่างนานไปเลยจะหอมและเคี้ยวมัน ถึงจะบอกว่าเคี้ยวมันแต่ก็ยังนุ่มมาก ๆ อยู่ดี และเข้ากับน้ำจิ้มบางชนิดอีกด้วย

เครื่องเคียงน้ำจิ้มหลัก ๆ มี3อย่าง มีโชยุ ซอสงา กับซอสสักอย่างที่แอดมินไม่รู้จัก เพื่อเปลี่ยนรสชาติของเนื้อติดมัน โดยมีวาซาบิแก้เลี่ยนอยู่ด้วย แอดมินบอกเลยว่ามันเป็นห้วงเวลาหมัศจรรย์ที่แอดมินกินได้สัมผัสกับคำว่า"มัวเมาไปกับอาหาร"โดยแท้จริง หากถามว่าเมาแค่ไหน ตอบว่าแอดมินจำอะไรไม่ค่อยได้เกี่ยวกับซอสที่ไม่รู้จัก เหมือนสติไม่สนใจแล้วหากคำแรกไม่ค่อยโดนก็เปลี่ยนซอสทันที

น้ำจิ้มงาค่อนข้างกลมกล่อมหอมหวาน แอดมินก็ชอบอยู่ แต่จะชอบว่านี้ถ้าหากมันไม่โดนความโดดเด่นของเนื้อที่ละลายในปากมาแทรก หลังจากที่ทดลองไปมาแล้วพบว่า เนื้อที่ย่างนาน ๆ จะเข้ากับน้ำจิ้มนี้ที่สุด เพราะน้ำจิ้มนี้จะถูกรสของเนื้อกลบคืนหลังจากที่รสน้ำจิ้มกลบตอนแรก พอเข้าปากแล้วรสของน้ำจิ้มจะโดดออกมาก่อนแล้วค่อย ๆ เจือจาง สุดท้ายก็จะถูกรสเนื้อที่ย่างนาน ๆ แทรก

น้ำจิ้มแบบโชยุนั้นมีความเค็มจาง ๆ เหมาะกับการย่างแบบไม่นานเกินไป เนื้อพอสุกแล้วยังเห็นสีข้างในเป็นสีชมพูอ่อน ๆ รสเค็มจะนำทำให้ความอร่อยของเนื้อถูกยกระดับขึ้น แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์ แอดมินคิดอยู่ในใจว่าขาดอะไรไปกันนะ เลยลองป้ายวาซาบินิด ๆไว้ที่เนื้อก่อนจิ้ม ผลที่ได้คือ ความลงตัวของรสชาติ เหมือนกับโชยุเกิดมาเพื่อเข้าคู่กับวาซาบิ

สุดท้าย แอดมินหินกวาดตาไปที่โต๊ะก็เจอกับเครื่องปรุงที่ไม่ลับแต่ไม่ได้ให้มาอยู่ในเซ็ต เครื่องปรุงนี้แอดมินกินเกือบมองข้ามไปเพราะมันพื้นฐานมาก ๆ ที่มีทุกร้าน แต่แล้วแอดมินก็คิดถึงการ์ตูนจอมโหดกระทะเหล็กขึ้นมาได้ว่ามันมีฉากที่พูดว่า เนื้อชั้นดี แค่ย่างแบบกึ่งสุกแล้วโรยเกลือก็อร่อยที่สุดแล้ว

รออะไรอยู่ละครับ คว้าขวดเกลือมาลองทันทีเลย แล้วแอดมินกินก็ย่างเนื้อบนเตา4ชิ้นในเวลาเดียวกัน ชิ้นแรกโรยเกลือกก่อนย่าง ชิ้นที่2-4ย่างตามความสุกทั้ง3แบบ ผลที่ได้คือ เนื้อที่โรยเกลือแล้วนำไปย่างชนะขาดลอยครับ ไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อพอโรยเกลือแล้วย่าง โครงสร้างของเนื้อก็เปลี่ยนไป รสชาติก็เปลี่ยนไปด้วย กลายเป็นว่า เนื้อกับเกลือโดยที่ใช้เทคนิคการปรุงรสก่อนย่างอร่อยที่สุดครับ แอดมินยังจำรสชาติของมันได้ดีที่สุด ยิ่งกว่าซูชิที่ทานในโอซาก้า ยิ่งกว่าเนื้อปลาวาฬที่ได้ลองชิมก็คิดว่าคุ้มที่จ่ายเงินบินมาที่ญี่ปุ่น

 ไม่ได้หมายความว่าเนื้อย่างด้วยวิธีอื่นไม่อร่อยนะครับ วิธีอื่นก็อร่อยมากจนแซงหน้าน้ำจิ้มทั้ง 3 ไปเลย แต่วิธีโรยเกลือย่างนั้นเป็นวิธีที่แอดมินกินตัดสินเลยว่าเป็นวิธีการทานที่ดีที่สุดของร้านนี้ ที่สำคัญ โรยเกลือย่างนั้นอาจจะฟังดูเลี่ยน แต่พอทานกับวาซาบิกลับเข้ากันได้อย่างพิศวง เข้ากันยิ่งกว่าวาซาบิกับโชยุอีก

เอาเนื้อโรยเกลือนิดหน่อย ป้ายน้ำมันตรงขอบแล้วย่างแบบแรร์ แล้วป้ายวาซาบิก่อนทาน 

หลังจากมื้อนี้แอดมินกินเดินออกมาจากร้านแล้วรู้สึกว่า ถ้าจะกินอะไรก่อนตาย ก็คงหาร้านที่ทำเนื้อแบบนี้แล้วไปทาน มันเป็นประสบการณ์ที่วิเศษมากครับ แล้วราคาก็ไม่แพงด้วย ยอมเก็บเงินที่จะเอาไปหาร้านทานที่เมืองไทยแล้วบินมาทานที่นี่ ถึงจะเสียค่าเครื่องแต่ก็คุ้มกับรสชาติที่ได้รับมา

แอดมินให้คะแนน Would kill a man for/10 สำหรับเนื้อทอดนี้ครับ

ลายแทงสมบัติ

Gyukatsu Ichi Ni San

(牛かつ 壱弐参)

外神田3-8-17 (渡辺ビル B1F)
Chiyoda, Tōkyō
101-0021
Japan

Open hour

Mon-Fri 11:00 AM-9:00 PM

Sat-Sun  11:30 AM-8:30 PM

Google Map

https://www.google.com/maps/dir//35.7019556,139.7705668/@35.70203,139.7684357,17z/data=!3m1!4b1


Foursquare
https://foursquare.com/v/%E7%89%9B%E3%81%8B%E3%81%A4-%E5%A3%B1%E5%BC%90%E5%8F%82/50309fdce4b0265f8c143bcc

Read more

FUJI route near tokyo

เป้าหมายหลักของทริปญี่ปุ่นหลาย ๆ คนคงจะคล้าย ๆ ผม นั่นก็คือการได้ไปเห็นภูเขาไฟฟูจิของจริงเต็ม ๆ ตาสักครั้งใช่ไหมครับ แต่ทว่า......จากโตเกียว มีที่ไหนใกล้ ๆ ที่เราจะไปชมฟูจิได้มั่งหละ ?

Route ที่ 1 Hakone เดินทางจาก Shinjuku
ความยากเข้าถึง ★

cr : http://www.town.hakone.kanagawa.jp

Hakone ถือเป็นเส้นทางฮิตสุด ๆ สำหรับคนที่ได้ไปญี่ปุ่นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ นอกจากจะได้ชมภูเขาไฟฟูจิลูกใหญ่เต็ม ๆ ตาแล้ว ยังได้นั่ง Rope Way ไปยัง Owakudani สถานที่ที่มีไข่ดำอันเลื่องชื่อ ว่ากันว่ากิน 1 ลูก อายุจะยืนขึ้นอีกถึง 5 ปี และยังได้ร่องเรือใน "ทะเลสาบอาชิ" อีกด้วย (ทะเลสาบในภาพด้านบน)

การเดินทางแบบใช้เวลาไปกลับ 1 วัน

1. Shinjuku (Odakyo Odawara Line Exp.) → Odawara ลงรถ
2. ขึ้น Hakone Tozan Line → Gora ลงรถเพื่อต่อขึ้น Rope Way
3. ต่อจากนี้ไม่มีอะไรยากครับ Rope way จะพาเราไปยัง Owakudani (ยอดเขา) เราสามารถลงที่จุดนี้เพื่อชมทิวทัศน์ที่นี่และซื้อไข่ดำมาลองทานได้ หลังจากเที่ยวจนเต็มอิ่มแล้วให้ขึ้น Rope Way ฝากตรงข้ามจากที่เรามา เราจะเดินทางต่อเพื่อมุ่งหน้าลงขึ้นเรือโจรสลัดล่องทะเลสาบอาชิ ก่อนขึ้นเรือแนะนำให้เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนนะครับ
4. ขากลับนั่ง Bus ที่ขึ้นป้ายว่า Hakone Yumoto (箱根湯本駅) จะสามารถนั่งกลับไปทีสถานีเริ่มต้นได้

เราสามารถไป Hakone ได้โดยซื้อ Hakone Free Pass 5,140 เยน ซึ่งช่วยประหยัดค่าเดินทางของเราได้ประมาณ 1,300 เยน เมื่อเทียบกับการเดินทางแบบปกติไม่ใช้ Pass โดยตั๋ว Pass นี้จะรวมค่าเดินทางทุกอย่างตั้งแต่นั่งรถไฟจากชินจูกุไปจนถึงนั่งเรือ นั่งบัส นั่งโรปเวย์ และนั่งรถไฟกลับ สรุปคือ ซื้อใบเดียวนั่งได้ทุกอย่าง เพียงแค่โชว์ Pass ให้เจ้าหน้าที่ดูเท่านั้น !
Hakone Free Passสามารถซื้อได้ที่สถานี Shinjuku ตรงก่อนทางเข้า Odakyu Line หรือจะหาซื้อจากตัวแทนในเมืองไทยก็ได้เช่นกัน
จุดถ่ายภาพตามภาพปกของ Route นี้อยู่ที่หอชมวิว Narukawa Bijutsukan (成川美術館) หอนี้อยู่ที่จุดลงเรือขากลับที่ Moto Hakone(元箱根)
https://goo.gl/maps/tnBe5FzQEAk

Route ที่ 2 เดินทางจาก Shinjuku
ความยากเข้าถึง ★

cr : http:///www.fujisan.ne.jp

Kawakuchiko เป็นอีกสถานที่ที่เราเดินทางไปเพื่อชมภูเขาไฟฟูจิได้ไม่ยาก เพียงแค่ลงจากสถานีเราก็สามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้เต็มอิ่มได้ทันที

การเดินทาง

1. JR Azusa Line (Shinjuku) → Otsuki Station ประมาณ 1,200 เยน (หากใครมี JR West Pass จะสามารถใช้ได้ถึงแค่จุดนี้เท่านั้น ต่อจากนี้จะต้องเสียตังค์นะ)
2. จาก Otsuki Station นั่ง FujikyuKo Line → Kawakuchi Station ประมาณ 1,110 เยน ระยะเวลา 1.10 ชั่วโมงนิด ๆ จากสถานีนี้เราสามารถหยิบแผ่นพับแผนที่เพื่อใช้ในการเดินทางหรือนั่ง Bus ชมสถานที่ต่าง ๆ ที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้

จริง ๆ มี Bus จาก Shinjuku ถึง Kawakuchiko ในราคาประมาณ 1,750 เยนเท่านั้น หากเราสามารถนั่งบัสได้จะประหยัดไปอีกเยอะเลยทีเดียว แต่ต้องระวังเป็นพิเศษในช่วงวันหยุดหรือเทศกาล เพราะหากเจอรถติดในโตเกียวแล้วละก็ จากประสบการณ์ของผมมันเลวร้ายยิ่งกว่ากรุงเทพเสียอีกนะ

จุดชมวิวยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด

 cr : http:///www.fujisan.ne.jp

1. Tenjo-Zan (天上山) เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะมาช่วงเดือน 7 และ 8 นอกจากจะได้เห็นดอกไฮเดรนเยียบานสะพรั่งแล้ว ยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิไกล ๆ ได้อีกด้วย (แต่ฟูจิช่วงเดือนนี้จะยังไม่มีหิมะปกคลุมนะครับ)
   เดินทางมาจุดนี้โดย นั่ง Retro Bus (レトロバス) สาย Kawakuchiko (河口湖線) ไปลงที่ป้าย Rope Way Entrance (ロープウェイ入口)
2. Ubuyaka-Saki (産屋ヶ崎) จุดชมวิวที่สามารถเห็นดอกซากุระและฟูจิไปพร้อม ๆ กัน
   เดินทางมาจุดนี้โดย นั่ง Retro Bus (レトロバス) สาย Kawakuchiko (河口湖線) ไปลงที่ป้าย Ubuyaka-Saki (産屋ヶ崎)
3. Ooishi-Koen (大石公園) จุดชมวิวที่สามารถชมภูเขาไฟฟูจิได้สวยงามตลอดทั้งปี โดยเฉพาะกลางเดือน 6 และ เดือน 7 ซึ่งเป็นช่วงที่มีดอกลาเวนเดอร์ปลูกประดับไว้เราสามารถเก็บภาพทุ่งดอกลาเวนเดอร์กับภูเขาไฟฟูจิได้ในช่วงเดือนนี้
   เดินทางมาจุดนี้โดย นั่ง Retro Bus (レトロバス) สาย Kawakuchiko (河口湖線) ไปลงที่ป้าย ShizenSeikatsuKan (自然生活館)
4. Momichi Tunnel (もみじトンネル) จุดชมวิวพร้อมกับใบเมเปิ้ลสีแดงจุดนี้อยู่ใกล้ ๆ กับ Ooishi เลยครับ เพียงนั่งบัส Retro ลงที่ป้าย ShizenSeikatsuKan (自然生活館) แล้วเดินต่ออีกเพียง 15 นาทีเท่านั้น

Route ที่ 3 Arakurayama-Senkenkoen (Chureito Pagoda) เดินทางจาก Shinjuku

ความยากเข้าถึง ★

cr : http://www.win4000.com

Arakurayama Senkenkoen (新倉山浅問公園) หรือ Chureito Pagoda เจดีย์แดง 5 ชั้นที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจินี้ตั้งอยู่ที่ Fujiyoshida, Yamanashi เป็นเส้นทางผ่านก่อนจะถึง Kawakuchiko หากเรามีแผนเดินทางไป Kawakuchiko โดยไม่มีสัมภาระเดินทางก็อย่าลืมแวะลงเก็บภาพสวย ๆ ที่นี่กันครับ แต่หากใครมีสัมภาระแบกมาด้วยและมีแผนจะไปพักที่ Kawakuchiko ผมแนะนำให้เดินทางไปเก็บของก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมาใหม่ เนื่องจากที่นี่เราต้องเดินเท้าจากสถานีไปประมาณ 1.1 กิโลเมตร

การเดินทาง

1. JR Azusa Line (Shinjuku) → Otsuki Station ประมาณ 1,200 เยน (JR West Pass จะใช้ได้ถึงจุดนี้ครับ ต่อจากนี้จะถูกชาร์จประมาณ 1,100 เยน)
2. เปลี่ยนสายเป็น FujikyuKo Line (富士急行線) → ลงที่ ShimoYoshida (下吉田駅) 
3. จากนั้นเดินเท้าโดยใช้ GPS นำทางโดยเซิจหาสถานที่ชือ 新倉山浅問公園 หรือ  Chureito Pagoda แล้วเดินตามทางที่ GPS แนะนำได้เลย หรือ จิ้มลิ้งด้านล่างนี้เพื่อดูพิกัดสถานที่นี้
   https://goo.gl/maps/Rj5A4t3HpyA2
   ระยะเดินจากสถานีถึงจุดหมายประมาณ 1.1 กิโลเมตร

Route ที่ 4 Takao-San เดินทางจาก Shinjuku

ความยากเข้าถึง ★☆

cr : https://jp-route.blogspot.com ภาพฟูจิซังตอนเย็น

Takao-San เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีและจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิอีก 1 จุดที่ไกล้โตเกียว แต่การเดินทางเพื่อไปให้ถึงจุดชมวิวนั้นต้องเดินขึ้นเขาเท่านั้น ! 

การเดินทาง

1. Keio-Shin Line (Shinjuku) → Takaosan-Guchi (高尾山口駅)
2. เดินไปยัง Kiyotaki Station (清滝駅) เพื่อนั่ง Cable Car ไปยัง Takao-San (高尾山)
3. จาก Takao-San จนถึงยอด ต้องเดินเท่านั้น (หากเดินอย่างเดียวประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงแล้วครับ แต่หากเดินชมธรรมชาติไปด้วยแวะทานอาหารและซื้อขนมไปด้วยก็จะใช้เวลาประมาณ 3 - 4 ชั่วโมงครับ)

จากสถานี TakaoSan-Guchi เราสามารถเลือกนั่ง Cable Car  หรือ เดินเท้า เพื่อไปยัง Takao-San ก็ได้ หากเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ทางเลือกเดินขึ้นน่าจะดีที่สุด เพราะสองข้างทางเดินมีต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสีเต็มไปหมดเลยครับ!

Read more

หม้อไฟปลาแองเกลอร์ทะเลลึก ณ อากิฮาบาระ Isegen (いせ源)

ตอนแอดมินนั่งวางแผนทริปนี้กับเพื่อนในบ้านที่ประเทศไทยก็ได้ลองหาร้านที่น่าสนใจดูหลาย ๆ ร้านเพื่อไปตะลอนกิน (ใช้เวลาเป็นเดือนในการคัดร้าน/วางแผน) อยู่ดีๆเพื่อนแอดมินที่เคยไปเที่ยวมาหลาย

Read more

โคร็อกเกะเนื้อชุบแป้งทอดฉ่ำน้ำซุป ณ อาซากุสะ Asakusa Menchi (Mini Review)

โคร็อกเกะเนื้อชุบแป้งทอดฉ่ำน้ำซุป ณ อาซากุสะ Asakusa Menchi (浅草メンチ) (Mini Review)

แอดมินยอมรับว่าคาดไม่ถึงจะได้เจอร้านนี้

Read more

แผนเดินทางชมซากุระพลางดูพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก ณ ชิอุเดะยามะ

ชิอุเดะยามะ(紫雲出山) เป็นจุดชมซากุระที่จะได้เห็นทะเลเซโตะใน(瀬戸内海)ช่วงพระอาทิตย์ตกได้สวยงามและโรแมนติกสุด ๆ มันเป็นทริปอีกทริปที่ผมอยากจะไปให้ได้ หลังจากมองหาเส้นทางอยู่สองสามวัน ในที่สุดลายแทงเดินทางก็เป็นรูปเป็นร่างสักที เอาละมาดูกันครับ

Read more

ข้าวหน้าปลาไหลชามยักษ์ ณ อาซากุสะ Asakusa Unatetsu (浅草うな鐵 国際通り店)

หากพูดถึงการมาเที่ยวที่โตเกียวแล้ว หลายๆคนคงมีแผนเที่ยวสถานที่ต่างๆมากมาย แต่สถานที่ๆแอดมินพบเจอคนไทย กลุ่มทัวร์ และ Backpackersจากประเทศกลุ่มเอเชียเยอะที่สุด (รองลงมาจากตลาดปลา) ก็คงไม่พ้นวัดอาซากุสะ หรือชื่อทางการคือวัดเซ็นโซจิ (Senso-ji) นั่นเอง

Read more